เมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมา ช่วงเดือนมกราคม เป็นทริปแรกที่ไปแบบ Full trip มากๆ ซึ่งปกติเราจะไปแบบ One day trip หรือไม่ก็ไปแบบสั้นๆ ทริปนี้ เราไปกันที่ “เขาหลวง” ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ รามคำแหง จ.สุโขทัย ไปกับกลุ่มเพื่อน อีก 4 คน ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไปนะ แต่เป็นครั้งที่ีไปแล้วอินกับการปีนเขามากๆ
ที่บอกว่าไม่ใช่ครั้งแรกเพราะ เคยไปมาครั้งหนึ่งแล้วสมัยเรียนมหา’ลัย ซึ่งเป็นกิจกรรมของคณะ ซึ่งตอนนั้นที่ไปเหมือนโดนนบังคับนิดๆ เพื่อนไปก็ไป เลยไม่ค่อยอิน (หัวเราะ) เราเดินทางออกจากพิษณุโลก เวลา 06.00 น. ใช้เวลาการเดินทาง ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงที่ทำการอุทยาน (มาจาก กทม. สามารถตรงมาที่ อ.คีรีมาศใกล้สุด แล้วจ้างรถต่อ) พอมาถึงที่ทำการอุทยาน ก็เตรียมตัวเตรียมสัมภาระกันสักพัก จ่ายค่าเช่าเต้นท์ ค่าถุงนอน ที่เราจะเช่า แต่เนื่องจากเราเอาเต้นท์ไปเอง จึงเสียแค่ค่ากางเต้นท์และถุงนอนและแล้วการเดินทาง สุดหฤโหด ก็ได้เริ่มขึ้น..
ระยะทางของการเดินเท้าจากที่ทำการอุทยาน ถึงจุดกางเต้นท์นั้น เพียงแค่ 3.7 กิโลเมตร แต่บอกเลยว่ากว่า 3 กิโลเมตรนั้น เป็นทางขึ้นตลอด ซึ่งชันมากๆ เล่นเอาขาลากเลย ระหว่างทางจะมีแคร่ ให้นักพัก และน้ำดิบ ไว้เป็นระยะๆ ขาขึ้น พวกเราใช้เวลาทั้งหมด 4 ชั่วโมง ไปเรื่อยๆ ถึงช้า แต่ถึงชัวร์
ในที่สุดก็มาถึง ขึ้นมาว่ายากแล้วแต่ถ้ามาแล้วไม่ได้พิชิต 4 ยอดเขาละก็ ถือว่า ไม่สมบูรณ์ 100% ได้แก่ เขาภูกา เขาแม่ยา เขานารายณ์(จุดดูพระอาทิตย์ขึ้น) และยอดเขาเจดีย์ ซึ่งทั้ง 4 เขา สามารถเดินเป็นวงกลม และกลับมายังจุดกางเต้นท์ได้ เวลายังเหลือ ขอไปเดินชมทิวทัศน์กันสักหน่อย บนยอดเขาเจดีย์
ณ จุดกางเต้น มีีเต้นท์ ผ้าห่ม เครื่องนอน ให้เช่า ไม่ต้องเตรียมไปก็ได้ (ลำพังขึ้นไปเฉพาะตัวเองก็จะไม่รอด) หรือใครจะเตรียมไป ก็เอาเฉพาะ ที่เอาไปไหว แพ็คให้เรียบร้อย เอาหละได้เวลามื้อเย็นของเรา เนื่องจากเตรียมพร้อมมาอย่างดี เราก็ไม่กังเวลาเรื่องกินสักเท่าไหร่ เพราะสำหรับเราแล้ว เรื่องกินถึือเป็นเรื่องใหญ่ 55+ ซึ่งในการทำอาหารนั้นสามารถเช่า เตาแก๊สปิ๊กนิกได้ (แก๊สกระป๋องได้) หรือถ้าจะก่อไฟเองก็ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะโซนไว้ให้โดยเฉพาะ
หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน ด้วยความเพลียจากการเดินทาง เราก็ไม่รีรอที่จะเข้านอน เอ้ย…ไม่ได้ๆ เรายังไม่ได้อาบน้ำเลย ซึ่งจะบอกเลยว่า น้ำที่นี่เย็นมากๆ แม้จะเป็นช่วงกลางวันก็ตาม เราต้องรีบเข้านอนเพราะต้องไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ในวันพรุ่งนี้ เวลา 05.30 น. ที่ผานารายณ์ ซึ่งก็ไม่ไกลจากที่กางเต้นท์มากเท่าไหร่
เป็นแสงแรกของปีที่เราได้เห็นแล้วรู้สึกว่า เห้ย.. นี่แหละคือสิ่งที่ตามหา ผ่านการเดินทางกว่า 3 กิโลเมตร เราบอกเลยว่ามันคุ้มค่าต่อการเดินทางมากๆ รู้สึกหายเหนื่อยเลย เอาหละได้เวลาเดินทางกลับแล้ว นึกแล้วก็ท้อใจเหมือนเดิม แต่ขาลงใช้เวลา ไม่นานประมาณ 2 ชั่วโมงได้ บอกเลยว่าสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหรือเดินทางขึ้นเขา ทริปนี้โหดสุดๆ เพราะว่าเล่นเอาผม น่องตึงไปเป็นอาทิตย์เลย
คำแนะนำการขึ้นเขาหลวง
– ไม่ต้องเตรียมไปก็ได้เพราะมีให้เช่า หรือถ้าเอาไปเองก็ควร เอาที่พอดีๆ ไม่หนักมาก ค่าเช่าเต้นท์ 250.
– ถุงนอนและแผ่นรองนอน สามารถเช่าได้ อย่างละ 30.-
– ค่าสถานที่กางเต้น 30.- (กรณีนำเต้นท์ไปเอง)
– มีบริการลูกหาบ กิโลละ 25.-
– ข้างบนมีร้านค้า สวัสดิการ แต่ราคาแพงควรเตรียมไปเอง
– การแพคกระเป๋าควรแพคให้เรียบร้อย จะได้ไม่ต้องหอบพะรุงพะรัง
– รองเท้าควรเป็นรองเท้าที่เหมาะกับการเดินเขา
– ขวดน้ำ ต้องมีอย่างน้อยติดตัวไว้ 1 ขวด แต่สามารถเติมได้ตามจุดน้ำดิบ