อารีย์ ย่านที่ได้ขึ้นชื่อว่า เป็นแหล่งรวมคาเฟ่ จุดเช็คอินสุดฮิป มากที่สุดในกรุงเทพมหานครฯ เรียกได้ว่ามีคาเฟ่แทบจะทุกซอย และเมื่อไม่นานนี้เองผมก็ได้ค้นพบบูทีคโฮเทลสุดแนว ที่ตั้งอยู่ในซอยอารีย์เช่นกัน ก็เลยบุ๊คมาร์กไว้ว่า ถ้ามีโอกาสมาย่านนี้ต้องขอมาพักเสียให้ได้ นั่นก็คือ JOSH HOTEL และเมื่อมีโอกาสมาพักแล้วก็อดไม่ได้ที่จะมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ตามไปเช็คอินกัน เพราะที่นี่เป็นมากกว่าโรงแรมที่มาค้างคืนแล้วกลับอย่างแน่นอน
Journey of someone Hotel
JOSH HOTEL โดย JOSH นอกจากจะเป็นชื่อเท่ๆ แล้วยังมีความหมายแฝงในตัวย่อ นั่นก็คือ Journey of someone Hotel เป็นโฮเทลสุดฮิปที่พึ่งจะเปิดได้ไม่นาน ตั้งอยู่ใจกลาง อารีย์ซอย 4 (เหนือ) ซึ่งอยู่ห่างจาก BTS อารีย์เพียงไม่กี่ร้อยเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 7 นาทีก็ถึง แต่หากมีสัมภาระก็นั่งตุ๊กๆ หรือวินไปก็จะดีกว่า เมื่อมาถึงโรงแรมสิ่งแรกที่เราสัมผัสได้ถึงความแตกต่างคือจากโรงแรมอื่นๆ คือ ความเป็นโมเดิร์นวินเทจ ตั้งแต่การตกแต่ง มู้ดแอนด์โทน รวมถึง Facility ทุกอย่างทำให้เราเหมือนได้วาร์ปไป Bech Hotel แถวยุโรปยังไงยังงั้น ไม่รีรอเรารีบเช็คอิน แล้วลากกระเป๋าขึ้นไปบนห้องเลยละกัน
จองที่พักผ่าน Agoda.com ในราคาสุดพิเศษ คลิกที่นี่
เดินเข้ามาอารีย์ ซอย 4 ก็จะเจอป้ายบอกทางตรงทางเข้าเลย
BNK 48 เคยใช้ Location ของ JOSH HOTEL เป็นสถานที่ถ่ายแบบด้วยนะ
JOSH HOTEL’S ROOM TYPE
เห็นด้านนอกอาจจะดูไม่กว้างมาก แต่ที่นี่มีห้องพักมากถึง 71 ห้องโดยแบ่งออกเป็น 3 Type ได้แก่
Superior Room (ราคา 1,750 บาท ต่อคืน รวมอาหารเช้า) จำนวน 17 ห้องใช้เตียงแบบ Twin ที่สามารแยกเตียงได้
Deluxe Room (ราคา 2,100 บาท ต่อคืน รวมอาหารเช้า) จำนวน 36 เตียงใช้เตียง Double King Size เตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ขึ้น
Family Room (ราคา 2,500 บาท ต่อคืน รวมอาหารเช้า) จำนวน 17 ห้อง เตียง Double King Size และเพิ่มความพิเศษด้วยเตียง 2 ชั้น
JOSH Room (Special Type) (ราคา 3,150 บาท ต่อคืน รวมอาหารเช้า) จำนวน 1 ห้อง เป็นห้องเดี่ยวดีไซน์สไตล์จีนที่มีขนาดกว้างเป็นพิเศษ มีห้องนั่งเล่น มีอ่างอาบน้ำ
เราเลือกจองห้องพักแบบ Superior Room ผ่าน Agoda ราคาก็จะถูกกว่านี้หน่อย แต่ดันลืม include breakfast ก็เลยขอจ่ายที่เคาท์เตอร์ (+200.-) เชคอินเสร็จก็ไม่รอช้า สะพายเป้ขึ้นห้องเลยจ้า
Superior Room แคบไปหน่อย แต่ Facility ก็ถือว่าครบครัน
Cafe, Restaurants, Shop and Pool bar
อย่างที่บอกไปว่าที่นี่ไม่ใช่แค่โรงแรมที่พักค้างคืนตื่นเช้าก็จากไป แต่ที่ชั้น 1 ของโรงแรมเป็นศูนย์รวมของร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านจำหน่ายของที่ระลึก ประกอบด้วย Marigold เป็นร้านอาหารปักษ์ใต้ต้นตำรับอาหารใต้สูตรดังเดิมของสมุย HELLO SUMMER เป็นร้านไอศครีม Ari Recepe เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น และนอกจากนั้นก็จะมี Shop Sunbath and Pool Only เป็นร้านจำหน่ายชุดว่ายน้ำ และอุปกรณ์อาบแดด เพราะไฮไลท์ของที่นี่คือสระว่ายน้ำที่อยู่ติดกับห้องอาหาร Matigold ที่ให้แขกที่พักสามารถมาว่ายชิลเอาท์ และ จัด Pool party ได้
แลนด์มาร์คของที่นี่เลย ใครมาที่นี่แล้วไม่ได้มาถ่ายรูปตรงจุดนี้ถือว่ามาไม่ถึง
SUNBARH AND POOL ONLY เป็นช็อปขายชุดว่ายน้ำและอุปกรณ์ชายหาด
Hello Summer เป็นร้านขายไอศครีมและเป็นอีกจุดถ่ายรูปที่เมื่อมาที่นี่ทุกคนต้องมาถ่าย
Ari Recepe เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น อยู่ใกล้กับร้าน Hello summer อยู่ทางซ้ายมือเมื่อเข้ามาที่โรงแรม
JOSH HOTEL Hidden Place of Ari
ในฐานะของนักเดินทาง ก็ขอยกให้ Josh Hotel เป็น Hidden Place of Ari and bangkok เลยก็ว่าได้ใครที่จะไปพัก หรือไปชิลเอาท์ที่ร้านหารหรือคาเฟ่ ถ้าไปไม่ถูกก็ติดต่อได้ตามที่อยู่ด้านล่างเลยนะ
เฟสบุ๊ค www.facebook.com/joshhotel2017 และ http://www.joshhotel.com/